เมื่อข้อมูลกลายเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจ การเลือกโครงสร้างจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสม (Data Architecture) มีผลโดยตรงต่อความเร็วในการวิเคราะห์ ความแม่นยำข้อมูล และความปลอดภัยขององค์กร ในปี 2025 นี้ Data Lakehouse กลายเป็นเทรนด์สำคัญที่องค์กรทั่วโลกให้ความสนใจอย่างจริงจัง
ทำความเข้าใจ Data Lakehouse คืออะไร?
Data Lakehouse คือสถาปัตยกรรมแบบรวม (converged) ระหว่าง Data Lake และ Data Warehouse โดยออกแบบให้เก็บข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง structured, semi-structured และ unstructured พร้อมระบบบริหารจัดการ transaction (ACID) แบบเดียวกับ data warehouse ข้อดีคือ ประหยัด, ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ workload ทั้ง BI และ ML ได้ในระบบเดียว
ทำไม Data Lakehouse จึงกลายเป็น Global Trend
จากรายงานของ Dremio พบว่าองค์กรยุคใหม่กำลังมุ่งสู่การใช้งาน Data Lakehouse เพื่อรองรับการเติบโตของ AI และข้อมูลจำนวนมหาศาล
- Gartner ยังมองว่า Data Lakehouse คือ evolution ของ Data Lake และ Data Warehouse ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
- ในปี 2024–2025 องค์กรกว่า 67% ตั้งใจใช้งาน Data Lakehouse เป็นแพลตฟอร์มหลักภายใน 3 ปีข้างหน้า
ตลาด Data Lakehouse เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4.7–8.9 พันล้านเหรียญ และคาดว่าจะพุ่งไปถึง 13–66 พันล้านเหรียญในปี 2029–2033
สถาปัตยกรรมของ Data Lakehouse
Data Lakehouse ผนวกองค์ประกอบของ Data Lake (object storage, raw data) เข้ากับ Data Warehouse (schema management, ACID, BI queries) เช่น ใช้ Apache Parquet, Apache Iceberg หรือ Delta Lake ในการจัดเก็บ พร้อม Metadata Catalog เช่น Unity หรือ Nessie เพื่อควบคุม governance และ data catalog
มี layer สำคัญดังนี้
- Ingestion: ETL/ELT, streaming, batch
- Storage: object store (เช่น S3, ADLS หรือ MinIO)
- Table layer: Parquet / Iceberg
- Catalog & Metadata
- Query & Processing: Spark, Flink, Dremio หรือ Databricks
- Governance: access control, lineage, auditing
ทำไมองค์กรไทยควรสนใจ Data Lakehouse
รองรับ AI และ Real‑Time Analytics
Data Lakehouse เหมาะกับงาน real‑time analytics, predictive analytics และ AI เพราะมันรวม Data และ Compute ไว้ในที่เดียว ร่นระยะเวลาในการวิเคราะห์ให้เร็วขึ้นสำหรับข้อมูลที่หลากหลายลด Technical Debt และความซับซ้อน
ระบบเดิมมักต้องแยกระหว่าง Data Lake และ Data Warehouse วันนี้ Lakehouse ลดการซ้ำซ้อนของข้อมูล ทำให้ Data Architecture ดูแลง่ายขึ้น และลดต้นทุนด้าน storage และ maintenance
Governance และ Compliance ครบถ้วน
Lakehouse รองรับระบบ governance เช่น access control, data lineage และ audit logs ซึ่งจำเป็นต่อ compliance เช่น PDPA หรือการจัดการข้อมูลให้ปลอดภัยระดับองค์กรตอบโจทย์องค์กรขนาดกลาง–ใหญ่ และกลุ่ม SMB
องค์กรขนาดใหญ่, ธุรกิจ e‑commerce, สถาบันการเงิน, โรงพยาบาล หรือการผลิต สามารถใช้ Data Lakehouse เพื่อรองรับ workload AI/ML และ BI ได้โดยไม่ต้องลงระบบ data warehouse สองชุดแนวโน้มและเทรนด์ Data Lakehouse ในปี 2025
- AI‑Driven Analytics: AI จะเป็นตัวผลักให้ Lakehouse เป็นมาตรฐานองค์กร ศูนย์กลางข้อมูลสำคัญของ AI/ML workflow
- Open Table Format เช่น Iceberg, Delta, Hudi กำลังเติบโต สนับสนุน interoperability ข้าม vendor
- Data Mesh และ Self-Service Analytics ที่ทำได้ง่ายผ่าน Lakehouse เป็น เทรนด์องค์กรระดับโลก
- Cloud-Native Lakehouse จาก Databricks, Dremio, Azure เป็นต้น พร้อมแพลตฟอร์ม AI-ready และ Data Governance แบบครบวงจร
แนวทางเริ่มต้นจัดตั้ง Data Lakehouse
- เริ่มจากข้อมูลหลัก: โครงสร้าง raw data, access pattern และ analytics use case
- เลือก storage ที่เหมาะสม เช่น ADLS, S3 หรือ storage ภายในประเทศ
- ใช้ table format แนวเปิด เช่น Parquet + Iceberg หรือ Delta Lake
- ติดตั้ง Metadata Catalog และตั้ง governance policy
- เลือกเครื่องมือ query/compute เช่น Apache Spark, Dremio, Databricks
- เริ่มเทสต์กับ subset ข้อมูล และค่อยขยาย scale เป็น Lakehouse production
สรุป
Data Lakehouse คือสถาปัตยกรรมที่พัฒนาให้ยืดหยุ่น ปลอดภัย และรองรับทั้งงาน BI และ AI ในระบบเดียว เป็นคำตอบของหลายองค์กรที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาล ลดความซับซ้อน และสร้างความพร้อมด้าน AI
สำหรับองค์กรไทยที่ต้องการโครงสร้างข้อมูลยุคใหม่ ต้องการ self-service analytics หรือช่วยทีม IT ต่อสู้กับความยุ่งยากของระบบเดิม Data Lakehouse คือทางเลือกที่ควรศึกษามากที่สุดในปี 2025
สอบรายละเอียดเพิ่มเติม
- 02-120-9636
- [email protected]
- Line Official : @THAIDATAHOSTING